บันทึกอนุทิน
ครั้งที่ 3
วันอังคาร ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2557
บทความ
1. วิทยาศาสตร์และการทดลอง
2. ภาระกิจตามหาใบไม้
3. เรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบบูรณาการ
4. วิทยาศาสตร์สำหรับเด็ก
5. การเป่าลูกโป่ง
ธรรมชาติของเด็กปฐมวัย3-5ปี
- พอใจคนที่ตามใจ
- มีช่วงความสนใจสั้น(5-10นาที)
- สนใจนิทานและเรื่องราวต่างๆ
- อยากรู้อยากเห็นทุกอย่างรอบตัว
- ชอบที่จะทำใก้ผู้ใหญ่พอใจและได้รับคำชม
- ช่วยตนเองได้
- ชอบเล่นแบบคู่ขนาน
- พูดประโยคยาวสั้น
นักการศึกษา/หลักการแนวคิด
1.เพียเจต์ Piaget ได้ศึกษาเกี่ยวกับพัฒนาการทางด้านความคิดของเด็กว่ามีขั้นตอนหรือกระบวนการอย่างไร ทฤษฎีของเพียเจต์ตั้งอยู่บนรากฐานของทั้งองค์ประกอบที่เป็นพันธุกรรม และสิ่งแวดล้อม เขาอธิบายว่า การเรียนรู้ของเด็กเป็นไปตามพัฒนาการทางสติปัญญา ซึ่งจะมีพัฒนาการไปตามวัยต่าง ๆ เป็นลำดับขั้น พัฒนาการเป็นสิ่งที่เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ควรที่จะเร่งเด็กให้ข้ามจากพัฒนาการจากขั้นหนึ่งไปสู่อีกขั้นหนึ่ง เพราะจะทำให้เกิดผลเสียแก่เด็ก แต่การจัดประสบการณ์ส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในช่วงที่เด็กกำลังจะพัฒนาไปสู่ขั้นที่สูงกว่า สามารถช่วยให้เด็กพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เพียเจต์เน้นความสำคัญของการเข้าใจธรรมชาติและพัฒนาการของเด็กมากกว่าการกระตุ้นเด็กให้มีพัฒนาการเร็วขึ้น เพียเจต์สรุปว่า พัฒนาการของเด็กสามารถอธิบายได้โดยลำดับระยะพัฒนาทางชีววิทยาที่คงที่ แสดงให้ปรากฏโดยปฏิสัมพันธ์ของเด็กกับสิ่งแวดล้อม
2. จอห์น ดิวอี้ John Dewey เป็นผู้นำนักปราชญ์ผู้นี้มีความเชื่อว่าความอยู่รอดของสรรพสัตว์ (ซึ่งหมายถึงมนุษย์ด้วยนั้น) ย่อมขึ้นอยู่กับการปรับตัวของสิ่งนั้นๆ ความเชื่อนี้ได้มาจากชาร์ลส์ ดาวิน (Charles Darwin) เจ้าของทฤษฏีวิวัฒนาการซึ่งให้หลักไว้ว่าผู้ที่เหมาะสมที่สุดจะอยู่รอด (The Survival of the Fittest) ส่วนผู้ที่ไม่เหมาะสม ย่อมจะล้มหายตายจากไป จากความเป็นจริงข้อนี้ จอห์น ดิวอี้ จึงได้ยึดเอาเรื่อง “การปรับตัว” ให้เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อมเป็นสรณะสำคัญ หรือเป็นแก่นแห่งการศึกษา จากแนวคิดเรื่องการปรับตัวนี้เอง จอห์น ดิวอี้ (John Dewey) จึงเห็นค่ามนุษย์ย่อมมีปัญหาอยู่ตลอด ปัญหานั้นก็คือ การเผชิญต่อความเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมรอบตัวที่เป็นอยู่ทุกขณะนั่นเอง เมื่อมนุษย์ต้องพบปัญหาอยู่ตลอด การฝึกมนุษย์ให้แก้ปัญหาได้ จึงเป็นสิ่งจำเป็นเพราะจะช่วยให้ขจัดปัญหาที่มาขัดขวางการดำเนินชีวิตได้ และชีวิตนั้นก็จะอยู่รอดตลอดไป
3.สกินเนอร์ Skinner กับทฤษฏีการวางเงื่อนไขแบบการกระทำ (Operant Conditioning)โดยจากแนวความคิดที่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสิ่งก่อให้เกิดพฤติกรรม และผลของการกระทำของพฤติกรรมนั้นโดยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมนั้น ทฤษฏีนี้เน้นการกระทำของผู้ที่เรียนรู้มากกว่าสิ่งที่ผู้สอนกำหนดขึ้น
4.เปสตาลอสซี่ Pestalzzi เชื่อว่าการศึกษาธรรมชาติถือเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรการเรียนการสอน เปสตาลอซซี่มุ่งเน้นความคิดของการจัดหลักสูตรแบบบูรณาการ (integrated curriculum) ซึ่งสอดคล้องกับการพัฒนาเด็ก อย่างเป็นองค์รวม เปสตาลอซซี่กล่าวว่าการจัดการศึกษาให้แก่เด็กควรรวมถึงการพัฒนาร่างกาย สติปัญญา และจิตใจ มีแนวคิดจากรุสโซตรงที่มุ่งเน้นการสอนเด็กเป็นกลุ่มมากกว่าการสอนเด็กเป็นรายบุคคล นอกจากนั้น เปสตาลอซซี่ยังเป็นต้นความคิดในเรื่องการเตรียมความพร้อม และเห็นว่าเด็กไม่ควร ถูกบังคับให้เรียนรู้ด้วยการท่องจำ แต่ต้องให้เวลาแล้วประสบการณ์แก่เด็กในการทำความเข้าใจสิ่งต่างๆ รอบตนเอง เปสตาลอสซี่ได้เขียนหนังสือหลายเล่มเพื่อเน้นความสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ และลูก เช่น “เกอร์ทรูดสอนลูกอย่างไร” (How Gertrude Teaches Her Children) และ “หนังสือสำหรับแม่” (Books for Mothers) และได้ออกแบบหลักสูตรชื่อ“ปาปา”(Papa) สำหรับลูกของตน ซึ่งจะให้คำแนะนำแก่พ่อแม่ในการอบรมเลี้ยงดูเด็ก
5.เฟอร์เบล Froeble กล่าวว่าสิทธิของเด็กเล็ก คือ ความเป็นอิสระในการแสดงออกตามธรรมชาติ ครูเป็นเพียงผู้ชี้แนะไม่ใช่ผู้ออกคำสั่ง เฟรอเบลเป็นคนแรกที่กล่าวว่าการเล่นและเกมส์ต่าง ๆ เป็นเสมือนการเรียนจากประสบการณ์ หลักการของเฟรอเบล เด็กจะได้รู้จักความจริง ความยุติธรรม ความรับผิดชอบและความรู้จักคิดทำอะไรได้ด้วยตนเองจนเกิดความชำนาญ มิใช่ทำทุกอย่างตามที่ครูบอก ทำให้เด็กสามารถค้นหาเอกัตภาพของตนเองได้
6.กีเซลล์ Gesell อธิบายถึงพัฒนาการทางกายที่มีรูปแบบที่แน่นอนและเป็นไปตามลำดับขั้น สภาพแวดล้อมมีส่วนช่วยส่งเสริมและต่อเติมพัฒนาการของเด็ก กีเซลล์ เน้นถึงการเติบโตและลักษณะของเด็กแต่ละคนแตกต่างกัน ถึงแม้แบบแผนและขั้นตอนพัฒนาการจะเหมือนกัน พัฒนาการของเด็กเป็นกระบวนการที่ประสานสัมพันธ์กันทุกด้านทั้งร่างกาย จิตใจ ดังนั้นการพัฒนาเด็กจึงต้องพัฒนาไปพร้อมๆกันทุกด้าน ทฤษฎีพัฒนาการทางร่างกายของกีเซลมีส่วนในการจัดสภาพแวดล้อมและการจัดกิจกรรมให้แก่เด็กโดยมีจุดมุ่งหมายที่จะพัฒนาเด็กให้ครบทุกด้าน
การนำไปประยุกต์ใช้
นำทฤษฎีของนักนักทฤษฎีหลายๆ ทฤษฎี มาปรับใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้กับเด็กปฐมวัยได้
ประเมินตนเอง
ต้องศึกษาเนื้อหาการเรียนเพิ่มเติม เพื่อที่จะพัฒนาตนเองให้รู้มาก สามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ได้จริง ในการจัดกิจกรรมต่างๆทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
ประเมินเพื่อน
ตื่นตัวกับการเรียนในห้องเรียน ระดมความคิดในการตอบคำถามของอาจารย์
ประเมินอาจารย์
ใช้คำถามเพื่อกระตุ้นให้นักศึกษาได้คิด และเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดมาตอบ
เทคนิคการสอน
1.ใช้คำถาม เพื่อระดมความคิด
2.บทความ พูด อธิบาย วิเคราะห์บทความ
นำทฤษฎีของนักนักทฤษฎีหลายๆ ทฤษฎี มาปรับใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้กับเด็กปฐมวัยได้
ประเมินตนเอง
ต้องศึกษาเนื้อหาการเรียนเพิ่มเติม เพื่อที่จะพัฒนาตนเองให้รู้มาก สามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ได้จริง ในการจัดกิจกรรมต่างๆทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
ประเมินเพื่อน
ตื่นตัวกับการเรียนในห้องเรียน ระดมความคิดในการตอบคำถามของอาจารย์
ประเมินอาจารย์
ใช้คำถามเพื่อกระตุ้นให้นักศึกษาได้คิด และเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดมาตอบ
เทคนิคการสอน
1.ใช้คำถาม เพื่อระดมความคิด
2.บทความ พูด อธิบาย วิเคราะห์บทความ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น