วันจันทร์ที่ 15 กันยายน พ.ศ. 2557




บันทึกอนุทิน
ครั้งที่ 4
วันอังคาร ที่ 9 กัยยายน พ.ศ. 2557


  บทความ

      1. ของเล่นวิทยาศาสตร์ (Science Toys)
         มีของเล่นที่เกี่ยวกับวิทยาศาสตร์ โดยผ่านการทดลองจากทฤษฎีหลายๆทฤษฎี กิจกรรมสนุกคิดกับของเล่นวิทยาศาสตร์ เพื่อให้นักเรียนได้ทดลองของเล่นจากเศษวัสดุเหลือใช้มาทดลองจากทฤษฎีต่างๆ ให้นักเรียนค้นคว้าหาความรู็โดยกระบวนการสืบเสาะหาความรู้ ให้เรียนรู้ผ่านการเล่น
      2.ทำยังไงให้ลูกสนใจวิทยาศาสตร์ (Do your children interested in science?)
        พ่อแม่ควรสนใจในคำถามที่แสดงออกมาว่าเป็นคำถามที่่อยากรู้อยากเห็น พ่อแม่อาจจะทำให้ลูกสนใจวิทยาศาสตร์ได้ง่ายๆ ด้วยการผ้านสื่อต่างๆ เช่น หนังสือการ์ตูนที่เกี่ยวกับวทยาศาสตร์การทดลองแบบที่เขาสามารถเรียนรู้เข้าใจได้ไม่ยาก หรือสื่อสิ่งประดิษฐ์ต่างๆ หรือพ่อแม่จะพาลูกไปเห็นของจริงเลยก็ได้ ที่พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์เพื่อสร้างความตื่นเต้น และกระตุ้นความอยากรู้อยากเห็นของเด็กได้
      3.วิทย์-คณิตศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย (Science - Mathematics for Early Childhood)
        ครูเป็นผู้จัดกิจกรรมให้กับเด็ก เพื่อให้เด็กได้ลงมือกระทำ/ทดลอง จากนั้นให้เด็กสังเกตุจากสิ่งที่เขาได้ทำ/ทดลอง หลังจากนั้นครูควรตั้งคำถามให้เด็กเกิดการคิดแล้วให้เด็กตอบตามความเข้าใจของเด็กเอง
      4.เมื่อลูกน้อยเรียนรู้วิทยาศาสตร์-คณิตศาสตร์ ผ่านเสียงดนตรี (When children learn science - mathematics. Through music)
        พ่อแม่อาจจะนะไม้2ชิ้นมาตีกันให้ลูกฟัง หรือจากเสียงดนตรี แล้วเปิดโอกาสให้ลูกถาม จากนั้นพ่อแม่ค่อยตอบคำถามที่ลูกถาม
      5.การจัดการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ของเด็กปฐมวัย (The science of early childhood learning)
        ให้เด็กลงมือปฏิบัติจริงโดยมีครูให้คำแนะนำ และการทดลองวิทยาศาสตร์นั้นควรจัดให้เหมาะสมกับวัยของเด็ก ครูอาจจัดกิจกรรมให้เด็กสำรวจสิ่งต่างๆรอบตัวเด็ก ให้เด็กได้ใช้ประสาทสัมผัสทั้ง5 และพัฒนาการของเด็กที้ง4ด้าน ผ่านการตั้งคำถามเพื่อหาคำตอบ หรือเป็นคำถามที่ต่อยอดความคิดของเด็กก็จะได้ผลที่ดีขึ้นกว่าเดิม

ทักษะวิทยาศาสตร์เพื่อพัฒนาเด็กปฐมวัย
แนวคิดพื้นฐานทางวิทยาศาสตร์
1.การเปลี่ยนแปลง ทุกสิ่งบนโลกนี้มการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา
2.ความแตกต่าง ทุกอย่างมีความแตกต่างกัน แต่ก็ยังมีความคล้ายคลึงกัน
3.การปรับตัว ปรับตามสภาพอากาศ สิ่งแวดล้อม สังคมที่เปลี่ยนไป ปรับเพื่อความอยู่รอดของชีวิต
4.การพึ่งพาอาศัย บางสิ่งบางอย่างมีการพึ่งพาอาศัยกัน เช่น ควายกับนกเอี้ยง ควายได้ประโยช์จากนกเอี้ยงที่นกเอี้ยงหาเห็บให้ นกเอี้ยงได้ประโยชน์จากควายโดยได้กินเห็บจากควาย แต่มีบางอย่างที่พึ่งพากันฝ่ายเดียว เช่น เหาฉลามกับฉลาม กล้วยไม้กับต้นไม้ใหญ่
5.ความสมดุล โลกต้องมีความสมดุล เพื่อโลกมีการเปลี่ยนแปลงน้อย แต่ทุกวันนี้ความสมดุลอาจจะน้อยเพราะเราสามารถเห็นได้จากการเปลี่ยนของโลก ณ ปัจจุบันนี้ได้

การศึกษาวิธีการทางวิทยาศาสตร์
1.ขั้นกำหนดปัญหา
2.ขั้นตั้งสมมติฐาน
3.ขั้นรวบรวมข้อมูล
4.ขั้นลงสรุป

เจตคติทางวิทยาศาสตร์
1.ความอยากรู้อยากเห็น
2.ความเพียรพยายาม
3.ความมีเหตุผล
4.ความซื่อสัตย์
5.ความมีระเบียบและรอบคอบ
6.ความใจกว้าง

ความสำคัญและประโยชน์ของวิทยาศาสตร์
ความสำคัญของวิทยาศาสตร์
-ตอบสนองควมต้องกาของเด็ก
-พัฒนากระบวนการทางวิทยาศาสตร์
-เสริมสร้างประสบการณ์

ประโยชน์ของวิทยาศาสตร์ 
    วิทยาศาสตร์มีประโยชน์ต่อมนุษย์และมีบทบาทสำคัญต่อการ พัฒนาประเทศ ผลของการศึกษาค้นคว้าทางวิทยาศาสตร์ เกี่ยวโยงกับความเจริญในด้านต่างๆ เช่น การแพทย์ การสื่อสารคมนาคม การเกษตร การศึกษา การอุตสาหกรรม การเมือง การเศรษฐกิจ ฯลฯ สรุปได้ดังนี้
      -วิทยาศาสตร์ช่วยให้มีความสามารถในสังคม ในสังคมที่มีสิ่งแวดล้อมทางวิทยาศาสตร์ บุคคลที่มีความรู้ทางวิทยาศาสตร์ จะเป็นผู้มีความสามารถ และมีความสำคัญต่อการพัฒนาชุมชนและสังคม
      -วิทยาศาสตร์ช่วยแนะแนวอาชีพ วิทยาศาสตร์ก่อให้เกิดอาชีพหลายสาขา และเป็นประโยชน์ต่อการดำรงชีวิต
      -วิทยาศาสตร์ช่วยให้เกิดความเจริญทางร่างกายและจิตใจ การได้รับความรู้ทางวิทยาศาสตร์ทั้งทางด้านทฤษฎีและปฏิบัติ ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสุขภาพ อนามัย อาหาร การดำรงชีวิต จะช่วยให้ร่างกายเจริญเติบโตและมีสุขภาพแข็งแรง
      -วิทยาศาสตร์ช่วยให้เป็นผู้บริโภคที่สามารถ หมายถึง การตัดสินใจในการใช้สินค้าหรือบริการต่างๆ โดยอาศัยหลักการทางวิทยาศาสตร์
      -วิทยาศาสตร์ช่วยให้รู้จักใช้เวลาว่างให้เป็นประโยชน์ในการศึกษาค้นคว้าเรื่องที่สนใจ
      -วิทยาศาสตร์ช่วยให้รู้จักใช้ทรัพยากรธรรมชาติให้เป็นประโยชน์
      -วิทยาศาสตร์ช่วยแก้ปัญหาต่างๆ


การนำไปประยุกต์ใช้
    จากบทความสามารถนำกิจกรรมที่เพื่อนนำเสนอไปจัดกิจกรรมในห้องเรียนได้จริง และยึดหลักทักษะทางวิทยาศาสตร์ในการสอนเด็กให้รู้ในการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยได้
ประเมินตนเอง
    เข้าใจบทความ และทักษะวิทยาศาสตร์ สามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ในการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กได้จริง
ประเมินเพื่อน
    เพื่อนในห้องเรียนมีความตื่นตัวในการเรียนตลอดเวลาเพราะอาจารย์สอนโดยการใช้คำถามตลอดเวลา เพื่อนๆสามารถระดมความคิดในการตอบคำถามของอาจารย์จนสามารถตอบอาจารย์ได้ถูกต้องที่สุด
ประเมินอาจารย์
    อาจารย์ใช้ความถามในการเรียนการสอนเพื่อให้นักศึกษาได้ระดมความคิดในการตอบคำถามได้คำตอบที่ถูกต้องที่สุด
เทคนิคการสอน 
    1.การใช้คำถามเพื่อระดมความคิด
    2.บทความ พูด อธิบาย วิเคราะห์บทความ




บันทึกอนุทิน
ครั้งที่ 3
วันอังคาร ที่ 2 กันยายน พ.ศ. 2557



บทความ
1. วิทยาศาสตร์และการทดลอง
2. ภาระกิจตามหาใบไม้ 
3. เรียนรู้วิทยาศาสตร์แบบบูรณาการ 
4. วิทยาศาสตร์สำหรับเด็ก
5. การเป่าลูกโป่ง 

ธรรมชาติของเด็กปฐมวัย3-5ปี 
- พอใจคนที่ตามใจ
- มีช่วงความสนใจสั้น(5-10นาที)
- สนใจนิทานและเรื่องราวต่างๆ
- อยากรู้อยากเห็นทุกอย่างรอบตัว
- ชอบที่จะทำใก้ผู้ใหญ่พอใจและได้รับคำชม
- ช่วยตนเองได้
- ชอบเล่นแบบคู่ขนาน
- พูดประโยคยาวสั้น


นักการศึกษา/หลักการแนวคิด
1.เพียเจต์ Piaget ได้ศึกษาเกี่ยวกับพัฒนาการทางด้านความคิดของเด็กว่ามีขั้นตอนหรือกระบวนการอย่างไร ทฤษฎีของเพียเจต์ตั้งอยู่บนรากฐานของทั้งองค์ประกอบที่เป็นพันธุกรรม และสิ่งแวดล้อม เขาอธิบายว่า การเรียนรู้ของเด็กเป็นไปตามพัฒนาการทางสติปัญญา ซึ่งจะมีพัฒนาการไปตามวัยต่าง ๆ เป็นลำดับขั้น พัฒนาการเป็นสิ่งที่เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่ควรที่จะเร่งเด็กให้ข้ามจากพัฒนาการจากขั้นหนึ่งไปสู่อีกขั้นหนึ่ง เพราะจะทำให้เกิดผลเสียแก่เด็ก แต่การจัดประสบการณ์ส่งเสริมพัฒนาการของเด็กในช่วงที่เด็กกำลังจะพัฒนาไปสู่ขั้นที่สูงกว่า สามารถช่วยให้เด็กพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม เพียเจต์เน้นความสำคัญของการเข้าใจธรรมชาติและพัฒนาการของเด็กมากกว่าการกระตุ้นเด็กให้มีพัฒนาการเร็วขึ้น เพียเจต์สรุปว่า พัฒนาการของเด็กสามารถอธิบายได้โดยลำดับระยะพัฒนาทางชีววิทยาที่คงที่ แสดงให้ปรากฏโดยปฏิสัมพันธ์ของเด็กกับสิ่งแวดล้อม 

2. จอห์น ดิวอี้ John Dewey เป็นผู้นำนักปราชญ์ผู้นี้มีความเชื่อว่าความอยู่รอดของสรรพสัตว์ (ซึ่งหมายถึงมนุษย์ด้วยนั้น) ย่อมขึ้นอยู่กับการปรับตัวของสิ่งนั้นๆ ความเชื่อนี้ได้มาจากชาร์ลส์ ดาวิน (Charles Darwin) เจ้าของทฤษฏีวิวัฒนาการซึ่งให้หลักไว้ว่าผู้ที่เหมาะสมที่สุดจะอยู่รอด (The Survival of the Fittest) ส่วนผู้ที่ไม่เหมาะสม ย่อมจะล้มหายตายจากไป จากความเป็นจริงข้อนี้ จอห์น ดิวอี้ จึงได้ยึดเอาเรื่อง “การปรับตัว” ให้เหมาะสมกับสิ่งแวดล้อมเป็นสรณะสำคัญ หรือเป็นแก่นแห่งการศึกษา จากแนวคิดเรื่องการปรับตัวนี้เอง จอห์น ดิวอี้ (John Dewey) จึงเห็นค่ามนุษย์ย่อมมีปัญหาอยู่ตลอด ปัญหานั้นก็คือ การเผชิญต่อความเปลี่ยนแปลงของสิ่งแวดล้อมรอบตัวที่เป็นอยู่ทุกขณะนั่นเอง เมื่อมนุษย์ต้องพบปัญหาอยู่ตลอด การฝึกมนุษย์ให้แก้ปัญหาได้ จึงเป็นสิ่งจำเป็นเพราะจะช่วยให้ขจัดปัญหาที่มาขัดขวางการดำเนินชีวิตได้ และชีวิตนั้นก็จะอยู่รอดตลอดไป 

3.สกินเนอร์ Skinner กับทฤษฏีการวางเงื่อนไขแบบการกระทำ (Operant Conditioning)โดยจากแนวความคิดที่ว่าความสัมพันธ์ระหว่างพฤติกรรมกับสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสิ่งก่อให้เกิดพฤติกรรม และผลของการกระทำของพฤติกรรมนั้นโดยที่มีอิทธิพลต่อพฤติกรรมนั้น ทฤษฏีนี้เน้นการกระทำของผู้ที่เรียนรู้มากกว่าสิ่งที่ผู้สอนกำหนดขึ้น

4.เปสตาลอสซี่ Pestalzzi เชื่อว่าการศึกษาธรรมชาติถือเป็นส่วนหนึ่งของหลักสูตรการเรียนการสอน เปสตาลอซซี่มุ่งเน้นความคิดของการจัดหลักสูตรแบบบูรณาการ (integrated curriculum) ซึ่งสอดคล้องกับการพัฒนาเด็ก อย่างเป็นองค์รวม เปสตาลอซซี่กล่าวว่าการจัดการศึกษาให้แก่เด็กควรรวมถึงการพัฒนาร่างกาย สติปัญญา และจิตใจ มีแนวคิดจากรุสโซตรงที่มุ่งเน้นการสอนเด็กเป็นกลุ่มมากกว่าการสอนเด็กเป็นรายบุคคล  นอกจากนั้น เปสตาลอซซี่ยังเป็นต้นความคิดในเรื่องการเตรียมความพร้อม และเห็นว่าเด็กไม่ควร ถูกบังคับให้เรียนรู้ด้วยการท่องจำ แต่ต้องให้เวลาแล้วประสบการณ์แก่เด็กในการทำความเข้าใจสิ่งต่างๆ รอบตนเอง เปสตาลอสซี่ได้เขียนหนังสือหลายเล่มเพื่อเน้นความสำคัญของความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ และลูก เช่น “เกอร์ทรูดสอนลูกอย่างไร” (How Gertrude Teaches Her Children) และ “หนังสือสำหรับแม่” (Books for Mothers) และได้ออกแบบหลักสูตรชื่อ“ปาปา”(Papa) สำหรับลูกของตน ซึ่งจะให้คำแนะนำแก่พ่อแม่ในการอบรมเลี้ยงดูเด็ก

5.เฟอร์เบล Froeble กล่าวว่าสิทธิของเด็กเล็ก คือ ความเป็นอิสระในการแสดงออกตามธรรมชาติ ครูเป็นเพียงผู้ชี้แนะไม่ใช่ผู้ออกคำสั่ง เฟรอเบลเป็นคนแรกที่กล่าวว่าการเล่นและเกมส์ต่าง ๆ เป็นเสมือนการเรียนจากประสบการณ์ หลักการของเฟรอเบล เด็กจะได้รู้จักความจริง ความยุติธรรม ความรับผิดชอบและความรู้จักคิดทำอะไรได้ด้วยตนเองจนเกิดความชำนาญ มิใช่ทำทุกอย่างตามที่ครูบอก ทำให้เด็กสามารถค้นหาเอกัตภาพของตนเองได้  

6.กีเซลล์ Gesell อธิบายถึงพัฒนาการทางกายที่มีรูปแบบที่แน่นอนและเป็นไปตามลำดับขั้น สภาพแวดล้อมมีส่วนช่วยส่งเสริมและต่อเติมพัฒนาการของเด็ก กีเซลล์ เน้นถึงการเติบโตและลักษณะของเด็กแต่ละคนแตกต่างกัน ถึงแม้แบบแผนและขั้นตอนพัฒนาการจะเหมือนกัน พัฒนาการของเด็กเป็นกระบวนการที่ประสานสัมพันธ์กันทุกด้านทั้งร่างกาย จิตใจ ดังนั้นการพัฒนาเด็กจึงต้องพัฒนาไปพร้อมๆกันทุกด้าน ทฤษฎีพัฒนาการทางร่างกายของกีเซลมีส่วนในการจัดสภาพแวดล้อมและการจัดกิจกรรมให้แก่เด็กโดยมีจุดมุ่งหมายที่จะพัฒนาเด็กให้ครบทุกด้าน


การนำไปประยุกต์ใช้
   นำทฤษฎีของนักนักทฤษฎีหลายๆ ทฤษฎี มาปรับใช้ในการจัดการเรียนการสอนให้กับเด็กปฐมวัยได้
ประเมินตนเอง
   ต้องศึกษาเนื้อหาการเรียนเพิ่มเติม เพื่อที่จะพัฒนาตนเองให้รู้มาก สามารถนำความรู้ที่ได้ไปใช้ได้จริง ในการจัดกิจกรรมต่างๆทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย
ประเมินเพื่อน
 ตื่นตัวกับการเรียนในห้องเรียน ระดมความคิดในการตอบคำถามของอาจารย์
ประเมินอาจารย์
 ใช้คำถามเพื่อกระตุ้นให้นักศึกษาได้คิด และเลือกคำตอบที่ถูกที่สุดมาตอบ
เทคนิคการสอน
 1.ใช้คำถาม เพื่อระดมความคิด
 2.บทความ พูด อธิบาย วิเคราะห์บทความ




บันทึกอนุทิน
ครั้งที่ 2
วันอังคาร ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2557




วิทยาศาสตร์
(science)


       -คือความพยายามของมนุษย์ที่จะเรียนรู้และทำความเข้าใจกับสิ่งรอบตัวและตัวตนของตนเอง
       -ความพยายามเช่นนี้ติดตัวของมนุษย์มาตั้งแต่แรกเกิด ซึ้งสะท้อนให้เห็นจาดธรรมชาติของเด็กที่มีความอยากรู้อยากเห็นช่างสังเกตและคอยซักถามเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่พวกเขาเจอและบางครั้งก็เป็นคำถามที่ยากเกินกว่าผู้ใหญ่จะให้คำตอบ
       -การทำความเข้าใจกับสิ่งรอบตัว และตัวตนของตนเอง โดยการสังเกต และคอยซักถามเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ที่พวกเขาเจอช่วยเชื่อมโยงเกี่ยวกับเซลล์สมองของเด็ก โดยเฉพาะเด็กเล็กๆ เพราะส่งเสริมให้เด็กได้คิด เป็นการเตรียมเด็กให้สามารถเรียนรู้ได้มากขึ้นในวัยที่สูงขึ้น


    ถ้าผู้ใหญ่ไม่เข้าใจในธรรมชาติของเด็ก

         -ปิดกั้นโอกาสทางการเรียนรู้ของเขาโดยการไม่ให้ความสนใจกับคำถาม
          -ไม่ให้ความสนใจกับการค้นพบแบบเด็กๆ
          -ไม่จัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่จะส่งเสริมและต่อยอดทักษะและแนวคิดที่ถูกต้องอย่างเหมาะสม



    ถ้าผู้ใหญ่เข้าใจในธรรมชาติของเด็ก

        -เปิดโอกาสทางการเรียนรู้ของเขาโดยการให้ความสนใจกับคำถาม
         -ให้ความสนใจกับการค้นพบแบบเด็กๆ
         -จัดประสบการณ์การเรียนรู้ที่จะส่งเสริมและต่อยอดทักษะและแนวคิดที่ถูกต้องอย่างเหมาะสม


    สำหรับเด็กปฐมวัยที่เราควรต้องจัดบูรณาการ มีอยู่ 2 อย่าง

          1. คณิตศาสตร์ Mathematics
          2. ภาษา Language






บันทึกอนุทิน
ครั้งที่ 1
วันอังคาร ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2557

     


      1. แนวการสอน Course Syllabus
            คำอธิบายรายวิชา
                ความหมาย ความสำคัญ แนวคิด ทฤษฎี และหลักการทางวิทยาศาสตร์ ทฤษฎีพัฒนาการทางสติปัญญา ทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ รูปแบบการจัดประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย กรอบมาตรฐานการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย การออกแบบ และวางแผนกิจกรรมบูรณาการประสบการณ์ทางวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย การผลิตสื่อวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัย การใช้คำถามพัฒนาการคิด การใช้กระบวนการสืบเสาะหาความรู้ การประเมินผลการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์ บทบาทของครูและผู้ปกครองในการส่งเสริมการเรียนรู้ทางวิทยาศาสตร์
       
            ผลลัพธ์การเรียนรู้
              1.ด้านคุณธรรม จริยธรรม
              2.ด้านความรู้
              3.ด้านทักษะทางปัญญา
              4.ด้านทักษะความสามารถระหว่างบุคคลและความรับผิดชอบ
              5.ด้านทักษะวิเคราะห์เชิงตัวเลข การสื่อสาร และการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
              6.ด้านการจัดการเรียนรู้

      2. การสร้างบล็กมีองค์ประกอบดังนี้
             1.ชื่อและคำอธิบายบล็อก
             2.รูปและข้อมูลผู้เรียน
             3.ปฏิทินและนาฬิกา
             4.เชื่อมโยง, บล็อกอาจารย์ผู้สอน, หน่วยงานสนับสนุน, แนวการสอน, งานวิจัยด้านคณิตศาสตร์, บทความ, สื่อ (เพลง, เกม, นิทาน, แบบฝึกหัด, ของเล่น)